วัดสะแก อ.อุทัย จ.พระนครศรีอยุธยา เป็นวัดที่มีชื่อเสียงมาก หากจะกล่าวถึงชื่อ หลวงปู่ดู่ พรหมปัญโญ แล้วล่ะก็ คงไม่มีใครไม่รู้จักเพราะท่านเป็นพระปฏิบัติดี ปฏิบัติชอบ สั่งสอนพุทธศาสนิกชน



วัดสะแก เป็นวัดเก่าแก่ เดิมทีเดียวตั้งอยู่ที่วัดคลังทอง ( วัดโกโรโกโส ในปัจจุบัน ) ตำบลข้าวเม่า สร้างเป็นวัดขึ้นในสมัยปลายกรุงศรีอยุธยา และได้รับพระราชทานวิสุงคามสีมาประมาณ พ.ศ. ๒๕๒๕ ต้นกรุงรัตนโกสินทร์ ตอนพม่ายกทัพมาล้อมกรุงศรีอยุธยา และตีกรุงศรีอยุธยาแตก เผาวัดวาอาราม ไล่ฆ่าคนไทยตายเป็นจำนวนมาก และขนเอาทรัพย์สินของคนไทยซึ่งนำไปฝังไว้ที่วัดคลังทองเป็นจำนวนมาก พระยาตากสินต่อสู้กับพม่าและตีทหารพม่าถอยทัพไป บังเอิญตรงนั้นมีคลองเล็กๆ อยู่ จึงตั้งชื่อคลองนั้นว่า คลองชนะ และพาทหารเดินทางต่อไปสว่างที่อุทัย จึงตั้งชื่อว่า บ้านอุทัย มาถึงทุกวันนี้สันนิษฐานกันว่า วัดสะแกอาจจะสร้างมาตั้งแต่กรุงศรีอยุธยาแตกครั้งที่ ๒ ก็ได้ โดยย้ายจากวัดคลังทองข้ามฝั่งมาตำบลธนู เหตุที่ย้ายจากวัดคลังทอง เพราะเมื่อถึงหน้าน้ำ น้ำจะท่วมทุกปี เนื่องจากไม่มีเขื่อนกั้นเหมือนสมัยปัจจุบัน และสถานที่จะสร้างวัดสะแกในปัจจุบัน ก็เป็นที่เนินสูง มีต้นไม้นานาชนิด เช่น ต้นตะเคียน มะขวิด จัน เป็นต้น หลังศาลาใหญ่มีสระน้ำ ขอบสระน้ำเต็มไปด้วยต้นสะแก งิ้ว มะม่วง คาง สะเดา แสมสาร ตะเคียน ส่วนสระน้ำนั้นคงขุดดินมาถม เพื่อจะสร้างอุโบสถหลังเก่า กลางลานวัดมีต้นตะเคียนใหญ่ขนาดสองคนโอบไม่รอบและมีต้นตาลสูงตระหง่านกลางต้นตะเคียน ต่อมามีเรือขุด ชื่อ เรือหลวงจบกระบวนยุทธ ได้มาทำการขุดลอกคลอง ทางวัดได้ให้พ่นดินกลบสระน้ำจนเต็มและเอาต้นไม้ออก คณะศิษย์ได้ขอพื้นดินนาของหลานสาวหลวงพ่อใหญ่ ( พระโบราณคณิสสร ) มาถมจนเต็มลานวัด และซื้อดินลูกรังมาถมจนมีเนื้อที่กว้างขึ้น เว้นต้นโพธิ์ใหญ่ ๑ ต้น ที่ไม่โค่น ด้านตะวันออกมีแต่ป่าไม้ กอไผ่ และต้นสะแก เต็มไปหมด ปัจจุบันนี้ไม่มีแล้ว